“สถานการณ์แบบนี้ ออกไปหาหมอหรืออยู่ที่บ้านจะปลอดภัยกว่ากัน?” เราเชื่อว่าในยุคปัจจุบัน หลายคนคงกังวลเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย

ตั้งแต่โรคระบาดครั้งใหญ่แพร่กระจายไปทั่วโลก ผู้คนต่างหันมาให้ความสำคัญกับสุขอนามัยกันมากขึ้น หลายคนกลัวที่จะต้องออกไปยังสถานที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสผู้ป่วย เช่น โรงพยาบาล บริการการแพทย์ทางไกล หรือ telehealth จึงได้กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

HelpDeliver พาร์ทเนอร์ของโอมิเซะ ได้ก้าวเข้ามาสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์รูปแบบใหม่สำหรับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทย โดยได้ใช้เพย์เมนต์เกตเวย์ของเราในการเชื่อมความเข้าถึงง่ายของอินเตอร์เน็ตเข้ากับความสะดวกรวดเร็วในการเช็คเอาท์ออนไลน์ของอีคอมเมิร์ซ

เพิ่มประสิทธิภาพและการเข้าถึงบริการทางสุขภาพด้วยโครงสร้างทางดิจิทัล

ในประเทศไทย การแพทย์ทางไกลเป็นภาคธุรกิจที่ยังอยู่ในช่วงเติบโต และด้วยผลกระทบจากโรคโควิด-19 ภาคตลาดนี้ก็กำลังขยายตัวด้วยอัตราที่เร็วขึ้น ทั้งยังได้รับความสนใจจากภาครัฐบาลและเอกชนอย่างล้นหลาม

อย่างไรก็ตาม โครงสร้างทางดิจิทัลในประเทศไทยยังล้าหลังและมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ทำให้สถาบันต่างๆ ไม่สามารถให้บริการออนไลน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ

คุณดีน โจนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ HelpDeliver ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญ จึงได้ดึงความชำนาญทางโลจิสติกส์ออกมาใช้เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อบริการคุณภาพสูงเข้ากับผู้ใช้งานด้วยเครื่องมือดิจิทัลและออฟไลน์ เพื่อช่วยดึงประสิทธิภาพสูงสุดและกระจายไปยังกลุ่มผู้ใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

ฟันเฟืองเล็กๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

จุดหมายของแบรนด์คือการแก้ปัญหาทางโครงสร้างโดยการสร้างห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ที่เหมาะสมต่อการลำเลียงบริการไปยังผู้ใช้งานได้อย่างว่องไวและมีคุณภาพกว่าที่เคย จึงออกมาเป็นโซลูชันที่ผสมผสานเครื่องมือดิจิทัลและออฟไลน์เข้ากับประสบการณ์การชำระเงินออนไลน์ ซึ่งประกอบไปด้วย:

1. แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับบริการทางสุขภาพ

ไม่ว่าจะโรงพยาบาลหรือคลินิครายย่อย การสร้างเว็บไซต์ของตัวเองต่างก็ต้องลงทุนทั้งเงินและเวลาจำนวนมาก ธุรกิจเหล่านี้จึงมักจะหันไปใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปซึ่งมีฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานอย่างหน้าโฮมเพจและแบบฟอร์มข้อมูลติดต่อ แต่ไม่ได้รับรองการทำอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ จึงอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ที่ต้องการจองและชำระเงินค่าบริการทันที

HelpDeliver ได้เข้ามาอุดช่องโหว่ตรงนี้ด้วยเว็บไซต์ที่รวบรวมบริการทางการแพทย์ชนิดต่างๆ เช่น บริการฉีดวัคชีน เก็บตัวอย่างเลือด ฯลฯ ให้ผู้ใช้เข้ามาค้นหา จองบริการ และชำระเงินล่วงหน้าได้เหมือนซื้อของออนไลน์ปกติโดยไม่ต้องออกจากบ้าน

2. บริการพยาบาลถึงที่บ้าน

ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นบริการออนไลน์ แต่หากไม่เข้าถึงตัวผู้ป่วยหรือผู้รับบริการเลย ทางโรงพยาบาลก็ไม่สามารถให้บริการได้อย่างเต็มที่เช่นกัน เนื่องจากยังมีขั้นตอนต่างๆ ที่คนไข้ทำเองไม่ได้ เช่น การวัดความดันหรือเก็บตัวอย่างเลือด

ทางออกที่ HelpDeliver ได้ค้นพบก็คือการทำโมเดลธุรกิจแบบกึ่งออฟไลน์กึ่งดิจิทัล โดยนอกจากตัวเว็บไซต์ ทางบริษัทยังมีทีมพยาบาลที่จะเข้ามารับช่วงต่อ ช่วยให้บริการในส่วนที่ต้องการความรู้เฉพาะทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม

ลูกค้าสามารถเลือกนัดรับบริการได้แบบรายครั้งหรือนัดเป็นรายชั่วโมงสำหรับบริการดูแลที่บ้าน (home nursing) และพยาบาลจะเดินทางมาที่บ้านลูกค้าด้วยจักรยานยนต์ที่มีระบบติดตามแบบเรียลไทม์

3. เว็บไซต์และระบบจองบริการสำเร็จรูปสำหรับลูกค้าธุรกิจ

นอกจากจะพัฒนาเว็บไซต์ของแบรนด์เอง ทาง HelpDeliver ยังเปิดให้พาร์ทเนอร์ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล คลินิค หรือบริษัทประกัน นำเว็บไซต์ไปปรับแต่งเพื่อใช้งานเองได้อีกด้วย เพื่อเป็นการช่วยผลักดันตลาดการแพทย์ทางไกลในภาพใหญ่ขึ้น

ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่ออีกขั้นของความไร้รอยต่อ

นอกจากการสร้างระบบดิจิทัลที่ตอบโจทย์ตลาด อีกหนึ่งเป้าหมายของทีมผู้พัฒนา คือ การสร้างประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ไหลลื่นที่สุดสำหรับผู้ใช้จากทางบ้าน

ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเรา คุณดีนกล่าว เราปรับปรุงหน้าตาเว็บไซต์ของเราไปหลายครั้งและพยายามเข้าใจความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยทีมงานได้แก้ไขฟีเจอร์ต่างๆ อย่างพิถีพิถันเพื่อให้ขั้นตอนการใช้งานตอบโจทย์ลูกค้าในประเทศไทย เช่น คำเรียกชื่อสถานที่ในภาษาไทยที่ไม่มีบนแผนที่ภาษาอังกฤษ และ วิธีการชำระเงินที่คนไทยนิยมใช้ รวมถึงออกแบบหน้าเช็คเอาท์ให้มีจำนวนหน้าน้อยที่สุด เพื่อความสะดวกรวดเร็ว

ปลดล็อคประสบการณ์ใหม่ด้วยช่องทางการชำระเงินออนไลน์

จุดสำคัญที่ทำให้ทางแบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์อีคอมเมิร์ซได้โดยสมบูรณ์ คือ การรับชำระเงินออนไลน์ โดยนอกจากจะเป็นส่วนที่สำคัญต่อการพัฒนาแพลตฟอร์ม ความปลอดภัยในการชำระเงินก็สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ใช้บริการ “ตั้งแต่เชื่อมต่อกับเพย์เมนต์เกตเวย์ของโอมิเซะ เราก็สามารถเริ่มให้บริการอย่างครบวงจรได้”

ทางแบรนด์ได้พัฒนาเว็บไซต์ขึ้นเองตั้งแต่ต้นเพื่อให้ได้รูปแบบการใช้งานที่ตรงตามความต้องการ เว้นแต่ในส่วนของระบบรับชำระเงินที่ทีมงานเลือกที่จะเชื่อมต่อกับโอมิเซะ เนื่องจากการสร้างระบบรับชำระเงินเองนั้นต้องใช้ความชำนาญเรื่องเทคโนโลยีและการชำระเงิน รวมทั้งใช้ต้นทุนมหาศาล การใช้บริการพาร์ทเนอร์จึงช่วยให้สร้างขั้นตอนการเช็คเอาท์ที่มีประสิทธิภาพได้ในเวลาและเงินทุนที่น้อยและคุ้มค่ากว่า

แพลตฟอร์มของ HelpDeliver เปิดให้ใช้บริการได้ตั้งแต่ต้นปี 2022 โดยโอมิเซะได้ร่วมพัฒนาประสบการณ์การชำระเงินที่กระชับและสะดวกสบายที่สุดสำหรับผู้ใช้งานและลูกค้าธุรกิจของแบรนด์

"เราให้ความสำคัญกับการออกแบบขั้นตอนการเช็คเอาท์ที่กระชับที่สุด โดยขั้นตอนการชำระเงินผ่านโอมิเซะก็เรียบง่ายตรงกับจุดประสงค์ของเรา”

เดินหน้าต่อไม่มีหยุด

ในการพัฒนาคุณภาพของบริการ บริษัท HelpDeliver พร้อมลงทุนและลงแรงเต็มที่ คุณดีนได้บอกกับโอมิเซะว่าทางทีมมีแผนพัฒนาแพลตฟอร์มอีกหลายจุดในอนาคต รวมถึงแผนในการขยายบริการสู่ภูมิภาคอื่นๆ ทั้งในและนอกประเทศ

แพลตฟอร์มที่ทาง HelpDeliver ได้สร้างขึ้นไม่ใช่เพียงเว็บไซต์แต่เป็นสะพานที่ช่วยให้กลุ่มลูกค้าออนไลน์เข้าถึงบริการทางสุขภาพคุณภาพสูงได้เทียบเท่าหรือดีกว่าการไปโรงพยาบาลตามปกติ และในระยะยาว โซลูชันนี้จะสามารถช่วยผลักดันประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมการแพทย์ออนไลน์ได้อีกมาก

คุณเองก็สามารถเข้าไปทดลองสัมผัสประสบการณ์การแพทย์ทางไกลแบบอีคอมเมิร์ซได้แล้ววันนี้ ที่ https://www.helpdeliver.asia