แบรนด์กระเป๋าทรงกลมลายดอกกุหลาบสีสวย Aristotle ที่ครองใจสาวๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติมาอย่างยาวนาน เริ่มต้นจากงานอดิเรกของ 2 เพื่อนสนิทคุณภณ รักสกุลนิตย์และคุณอัฏฐนัน หงษ์มณีที่ทำงานด้าน PR ให้กับแบรนด์แฟชั่นไทยแบรนด์ดัง หลังจากได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีเรื่อยมา จึงได้ขยับขยายจากงานอดิเรกสร้างเป็นธุรกิจแบบเต็มตัว

จากที่นำไปวางขายหน้าร้านเพียงไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเริ่มต้นใหม่ๆ ทุกวันนี้กระเป๋าแบรนด์ Aristotle ขายผ่านทางเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียเป็นหลักและยังมีลูกค้าอยู่ทั่วทุกมุมโลก

เมื่อเร็วๆ นี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเติ้ล ภณ รักสกุลนิตย์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์เกี่ยวกับการพลิกงานอดิเรกให้เป็นงานหลักและแนวทางการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน “ช่วงแรกที่ Aristotle bag วางขาย เราขายที่หน้าร้าน Kloset ก่อน พอทำไปได้ระยะหนึ่งพบว่ากระเป๋าเราได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เราก็เริ่มหาทางขยับขยาย อยากให้สินค้าเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและวงกว้างขึ้น ตรงนี้จึงขยับมาทำอีคอมเมิร์ซ”

“แรกๆ เลยเราก็เริ่มเบสิคก่อน ใช้การสั่งซื้อผ่านทางอีเมล์ เปิดให้จองเป็นล็อตไป ของเราผลิตออกมาไม่มาก เราก็ทำแบบ first come first serve มีพนักงานช่วยกันตอบอีเมล์อยู่ 2 คน ทำไปได้พักนึงเราก็เริ่มมีเพจเฟซบุ๊กแล้วก็อินสตาแกรมเข้ามาเพิ่มด้วย พอขายผ่านทางโซเชียลมาได้พักใหญ่ เราก็เห็นแล้วว่าฐานลูกค้ามีชาวต่างชาติด้วย น่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะมีเว็บไซต์ ทำอีคอมเมิร์ซแบบเต็มตัวเพื่อเสิร์ฟลูกค้าในต่างประเทศ ในปัจจุบันเรายกเลิกช่องทางขายผ่านอีเมล์ไปแล้ว ตอนนี้ 80% ของยอดทั้งหมดผ่านช่องทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย และอีก 20% มาจากทางหน้าร้านที่เรายังมีวางขายอยู่ ที่สยามพารากอนกับเซ็นทรัลลาดพร้าว”

“ข้อสังเกตุที่พบคือคนไทยเราชอบที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ขาย ชอบทัก ชอบคุย ถามเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจก่อนตัดสินใจ ช่วงที่ขายผ่านเฟ๊ซบุ๊กกับอินสตาแกรมแรกๆ เกือบๆ 10 ปีที่แล้ว เราเจอปัญหาคือลูกค้าจะไม่ค่อยกล้าจ่ายเงิน ยิ่งซื้อของออนไลน์เค้ายังไม่เคยเห็นสินค้าจริงก็จะไม่ค่อยกล้าจ่าย แต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก การซื้อของออนไลน์ การชำระเงินออนไลน์เป็นเรื่องปกติ คนเคยชินมากขึ้น ในฐานะผู้ประกอบการการมีเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องจำเป็น เราต้องมองไปข้างหน้า และคอยปรับตัวตามผู้บริโภคอยู่เสมอ”

จากการขายผ่านแชทเป็นหลักสู่การทำเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

Aristotle พัฒนาเว็บไซต์บนแพลตฟอร์ม WooCommerce โดยเชื่อมต่อกับระบบรับชำระเงินโอมิเซะผ่านปลั๊กอินตามคำแนะนำจากนักพัฒนาระบบที่เป็นคนดูแลเรื่องการทำเว็บไซต์ให้

“การจะผลักดันให้ลูกค้าเราไปซื้อผ่านทางเว็บไซต์ตอนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เราก็ต้องค่อยๆ สร้างความคุ้นเคย สำหรับกลุ่มที่ยังติดต่อกันทางโซเชียลมีเดียหรือทางไลน์ เราก็พบกันครึ่งทางโดยอาศัยฟีเจอร์ Links จากโอมิเซะเป็นตัวช่วยในการรับชำระเงิน”

เมื่อลูกค้าตกลงซื้อสินค้าผ่านทางข้อความแชท ทีมงานของ Aristotle สามารถสร้างลิงก์รับชำระเงินโดยระบุราคาของสินค้าได้เลย จากนั้นก็แค่ส่งลิงก์ไปให้ลูกค้าเพื่อชำระเงินซึ่งข้อมูลที่ลูกค้าต้องกรอกมีเพียงชื่อ หมายเลขบัตร วันหมดอายุ และรหัส CVV เพียง 4 อย่างเท่านั้น เมื่อลูกค้าชำระเงินสำเร็จทีมงานสามารถตรวจสอบในระบบได้ทันที “เราใช้ลิงก์รับชำระเงินเพื่อปิดการขายบนช่องทางโซเชียลมีเดียทั้งหมดมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว เราทำงานสะดวก ลูกค้าเราก็มั่นใจ ได้การตอบรับที่ดีมาโดยตลอด”

“ตั้งแต่ใช้บริการโอมิเซะมาก็ไม่เคยพบปัญหาอะไรหนักๆ เลย เมื่อไหร่ที่มีคำถามหรือติดขัดตรงไหนโอมิเซะก็มีทีมงานคอยให้ความช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี ในฐานะเจ้าของร้านเราไม่ต้องห่วงเรื่องระบบรับชำระเงินเลย ตัว WooCommerce เองมีระบบหลังบ้านที่เชื่อมกับสต็อคสินค้าของเรา เมื่อลูกค้าชำระเงินสำเร็จก็มีการตัดสต็อคอัตโนมัติเลย เราทำงานกันได้อย่างเป็นระบบและสะดวกมาก”

เคล็ดลับความสำเร็จในการทำอีคอมเมิร์ซ

“นอกจากมีสินค้าที่ถูกใจผู้บริโภคแล้ว สิ่งที่ Aristotle เน้นเสมอคือความตรงไปตรงมาและบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม ประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าสามารถสร้างความผูกพันที่เหนียวแน่น (brand loyalty) กับแบรนด์ได้ เรามองพื้นที่อีคอมเมิร์ซเป็นที่ที่เราในฐานะผู้ประกอบการใช้ร่วมกัน ดังนั้นความจริงใจ ตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องร่วมมือกันทำเพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า รักษาความนิยมของการซื้อขายออนไลน์ในระยะยาว”