โอมิเซะ ผู้ให้บริการระบบรับชำระเงินแก่ธุรกิจออนไลน์ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเพิ่มบริการรับชำระเงินผ่าน “อาลีเพย์พลัส” สำหรับร้านค้าอีคอมเมิร์ซในประเทศสิงคโปร์ การเพิ่มบริการใหม่นี้จะช่วยให้ร้านค้าต่างๆ ในสิงคโปร์สามารถรับชำระเงินข้ามประเทศ (cross-border) ผ่านบริการอาลีเพย์พลัส และเปิดโอกาสในการทำธุรกิจกับลูกค้าในต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้น

โอมิเซะให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ในประเทศสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 2560 โดยให้บริการธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ในหลายๆ อุตสาหกรรม ทั้งธุรกิจค้าปลีก (retail), ธุรกิจประเภทบริการ (services) รวมไปถึงผู้ให้บริการซอฟท์แวร์ (software)

อาลีเพย์พลัสเริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 2563 เป็นบริการจาก Ant Group ซึ่งรวมเอาทั้งนวัตกรรมด้านการชำระเงินข้ามประเทศและโซลูชันด้านการตลาดเข้าไว้ด้วยกัน ช่องทางการรับชำระเงินผ่านอาลีเพย์พลัสประกอบไปด้วยอีวอลเล็ทและแอปพลิเคชันธนาคาร เช่น Touch ‘n Go อีวอลเล็ทจากประเทศมาเลเซีย, TrueMoney Wallet อีวอลเล็ทจากประเทศไทย, GCash อีวอลเล็ทจากประเทศฟิลิปินส์, Kakao Pay อีวอลเล็ทจากประเทศเกาหลีใต้ รวมถึง Alipay China และ AlipayHK จากการเพิ่มบริการอาลีเพย์พลัส โอมิเซะ สามารถให้บริการรับชำระเงินข้ามประเทศแก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในสิงคโปร์ ช่วยเชื่อมธุรกิจเข้ากับฐานผู้ซื้อใหม่ๆ ในต่างประเทศ

ภายหลังจากที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ก้าวสู่สมรภูมิอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2563 เจ้าของธุรกิจต่างก็มองหาลู่ทางในการขยายฐานผู้ซื้อในต่างประเทศเพื่อเปิดรับผู้ซื้อกลุ่มใหม่ๆ ในปี 2563 พบว่าผู้ซื้อจากทั่วโลก ทุกๆ 1 ใน 2 คน เคยทำธุรกรรมแบบข้ามประเทศ[1] และในปีที่ผ่านมาปีที่แล้ว วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) คิดเป็น 45% ของมูลค่าการส่งออกอีคอมเมิร์ซ B2C มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ของสิงคโปร์[2]

“อีคอมเมิร์ซในสิงคโปร์ดุเดือดพอสมควร ทั้งผู้เล่นหน้าเก่าและหน้าใหม่ ต่างก็ต้องการสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอยุ่แล้ว การเพิ่มช่องทางรับชำระเงินใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเปิดรับฐานลูกค้าจากต่างประเทศได้จึงเป็นตัวช่วยในการเพิ่มยอดขายที่ดี” คุณเกว็นโดลิน เชีย ผู้จัดการโอมิเซะ ประจำประเทศสิงคโปร์ กล่าว “โอมิเซะมีการอัปเดตตัวเลือกการชำระเงินใหม่ๆ เสมอ เพื่อให้รองรับกับกลยุทธในการทำธุรกิจต่างประเทศของกิจการร้านค้า ซึ่งการพาร์ทเนอร์กับอาลีเพย์พลัสนี้ เข้ามาช่วยขยายบริการของเรา โดยการเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินแก่ร้านค้าอีคอมเมิร์ซ” คุณเกว็นโดลิน กล่าวเสริม

การเชื่อมต่อกับอาลีเพย์พลัสยังช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากเกี่ยวกับการรับชำระเงินจากต่างประเทศออกไป ที่เห็นได้ชัดเจน คือ ร้านค้าไม่จำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการทีละเจ้า, เรื่องของการแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ, การสรุปยอดเงินเข้าบัญชี (settlement) และเรื่องระเบียบปฏิบัติ (compliance) ซึ่งทั้งหมดจะมีมาให้พร้อมจากการเชื่อมต่อเพียงครั้งเดียว

“ในช่วงที่ธุรกิจในเอเชียปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (digital transformation) เช่นนี้ เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยดูแลด้านการรับเงินและประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) มีความสำคัญมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาลีเพย์พลัสคือ โซลูชันที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องการรับชำระเงินต่างประเทศ สำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายกิจการไปยังต่างแดน” คุณเชอรี่ หวง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความร่วมมือกับผู้ค้าทั่วโลกของอาลีเพย์ ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว “เรายินดีกับการพาร์ทเนอร์กับโอมิเซะเพื่อส่งเสริมให้แบรนด์ท้องถิ่นในสิงคโปร์ ขยายออกสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างคล่องตัว และช่วยซัพพอร์ตการเติบโตของกิจการต่างๆ ให้ไปได้ไกลขึ้น”

[1] [2]