Pomelo
Pomelo เป็นแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าออนไลน์สัญชาติเอเชีย โดดเด่นด้วยไอเท็มอินเทรนด์ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับผู้หญิงในราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย Pomelo เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 และเป็นธุรกิจกลุ่มแรกๆ ที่ให้ความไว้วางใจในระบบรับชำระเงินโอมิเซะ เริ่มต้นใช้บริการมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2016 ทางทีมตั้งใจเลือกเชื่อมต่อกับระบบรับชำระเงินโอมิเซะเพื่อช่วยให้สาวๆ นักช้อปสามารถชำระเงินออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของ Pomelo ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
สำหรับ Pomelo ประสบการณ์การซื้อสินค้าและความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ ทางทีมโฟกัสเรื่องการขายสินค้าผ่านหลากหลายช่องทาง (omnichannel) ทั้งออนไลน์และผ่านหน้าร้าน โดยให้ลูกค้าสามารถลองสวมใส่และคืนสินค้าได้ง่ายๆ หากใส่ได้ไม่พอดีหรือยังไม่ถูกใจ ส่วนเรื่องการชำระเงินก็มีความตั้งใจที่จะออกแบบมาเพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมดรวดเร็วและราบรื่นที่สุดสำหรับผู้ซื้อ ในส่วนของระบบการทำงานหลังบ้าน Pomelo มีระบบคลังสินค้าอัจฉริยะที่สามารถช่วยประเมินและคำนวณอัตราการผลิตอีกด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณจิม โบแลนด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของ Pomelo เกี่ยวกับมุมมองและแนวคิดของ Pomelo ที่มีต่อการรับชำระเงินออนไลน์
ระบบรับชำระเงินออนไลน์ดีดูที่อะไร?
แนวคิดที่ก้าวหน้า (forward-thinking) และเทคโนโลยีที่ทันสมัย (tech-savvy) คือหัวใจของระบบรับชำระเงินออนไลน์ มันสำคัญมากที่ตัวเทคโนโลยียืดหยุ่นมากพอ สามารถที่จะนำมาปรับใช้เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจเราได้ อย่างที่ Pomelo เราต้องการส่งมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นที่สุด ลูกค้าเราต้องสามารถจ่ายเงินได้ง่าย ทีมนักพัฒนาที่ดูแลระบบหลังบ้านของเราก็ต้องทำงานง่ายด้วยเหมือนกัน
ในฐานะ CFO มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องคอยดูแลเรื่องงบประมาณ เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ของบริษัท ตรงไหนที่เราสามารถประหยัดได้เราก็ทำอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของระบบรับชำระเงินผมว่ามันคุ้มที่จะลงทุนเพิ่มอีกสักหน่อย หากเราจะได้ใช้เทคโนโลยีที่มันทันสมัย ตอบโจทย์ของเราจริงๆ และสามารถทำให้กระบวนการรับชำระเงินที่หน้าเว็บไซต์ของเราราบรื่น
การจะทำอีคอมเมิร์ซให้ประสบความสำเร็จได้ ควรจะต้องใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ขั้นตอนการเลือกซื้อสินค้าต้องราบรื่น ประสบการณ์โดยรวมต้องดี ในฐานะผู้ประกอบการเราต้องคำนึงว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถปิดการขายโดยให้ลูกค้าคลิกน้อยที่สุด
ความสำคัญของระบบรับชำระเงินที่มีต่อธุรกิจ
ก่อนย้ายมาที่ Pomelo ผมเคยมีประสบการณ์ตรงในการเปลี่ยน/ย้ายระบบรับชำระเงินมาก่อน บอกเลยว่ามันเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากพอสมควร การพาร์ทเนอร์กับระบบรับชำระเงินที่มีฟีเจอร์หรือฟังก์ชันการทำงานที่จำกัด ก็จะจำกัดวิธีการรับชำระเงินของร้านค้า และพาให้กระทบกับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวไปด้วย บางครั้งธุรกิจอาจจะเสียหายมากกว่าหากไปพาร์ทเนอร์กับระบบที่ไม่เสถียร มีปัญหาล่มบ่อยๆ อย่างเช่น หากระบบรับชำระเงินเกิดล้มในช่วงที่มี peak sales นอกจากจะเสียหายต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์แล้ว ยังสูญเสียรายได้ไปอีกด้วย
เล่าประสบการณ์การใช้งานโอมิเซะ
Pomelo มีทีมนักพัฒนาระบบเป็นของตนเอง ทางทีมเลือกเชื่อมต่อกับระบบรับชำระเงินโอมิเซะผ่าน API โดยใช้บริการมาตั้งแต่ปี 2016 โอมิเซะมีทีมที่คอยให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคกับเราเป็นอย่างดีและยังมีคู่มือการติดตั้งที่จำเป็นทั้งหมดอยู่บนเว็บไซต์ด้วย ในการออกแบบ customer journey เราคำนึงถึงขั้นตอนการขาย (sales funnel) ทั้งหมด ในการเชื่อมต่อกับระบบรับชำระเงินโอมิเซะ ทีมของเราสามารถปรับแต่งหน้าเช็คเอาท์ให้ตรงตามแผนที่เราวางไว้ และยังรักษาแบรนดิ้งของเราไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งตรงนี้จะช่วยส่งมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าได้
ด้วยเทคโนโลยีรับชำระเงินของโอมิเซะ เราสามารถที่จะสร้างสรรค์หน้าชำระเงินบนเว็บไซต์ได้ตามที่ตั้งใจ ทุกอย่างมันราบรื่นและกลมกลื่นกันไปหมด บางครั้งผู้ซื้อยังไม่สังเกตุด้วยซ้ำ
สำหรับธุรกิจอย่าง Pomelo เราจะมีช่วงจัดโปรฯ พิเศษส่งเสริมการขาย ซึ่งจะเป็นช่วงที่มียอดธุรกรรมสูงหรือที่เรียกกันว่า “peak sales period” มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะไม่มีอะไรมารบกวนผู้ซื้อในหน้าเช็คเอาท์ ขั้นตอนการชำระเงินเป็นอะไรที่อ่อนไหวมากจริงๆ จะว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุดในกระบวนการซื้อทั้งหมดเลยก็ว่าได้ หลายๆ ครั้งเราเสียลูกค้าไปตรงจุดนี้
ตั้งแต่เราใช้งานโอมิเซะก็ไม่พบปัญหาด้านเทคนิคหรือระบบล่มใดๆ มากวนใจ อย่างช่วงที่เราจัดโปร 11:11 เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ยอดเราพุ่งสูงถึง 5 เท่าตัว แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มี high traffic ทุกอย่างก็ยังดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ระบบรับชำระเงินทำงานปกติ ไม่มีข้อขัดข้องอะไร